Black Hole Sun ผสานเสียงกีตาร์ร้องไห้กับกลองอันทรงพลัง
“Black Hole Sun” เป็นผลงานชิ้นเอกของวง grunge โด่งดัง Soundgarden ที่ปล่อยออกมาในปี 1994 จากอัลบั้ม Superunknown อัลบั้มนี้ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ว่าเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ดีที่สุดตลอดกาล และ “Black Hole Sun” ก็เป็นเพลงที่ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในชาร์ต Billboard Mainstream Rock
เสียงร้องของ Chris Cornell นำเสนอด้วยเมโลดีที่เย้ายวนและเนื้อร้องเชิงปรัมปราม ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกคลุมเครือและน่าหลงใหล “Black Hole Sun” ถูกตีความได้หลายแง่มุม แต่โดยทั่วไปแล้ว มักเกี่ยวข้องกับความมืด ความสิ้นหวัง และการต่อสู้ภายในจิตใจ
เพลงนี้เริ่มต้นด้วย riff กีตาร์ที่ไพเราะและหดหู่ของ Kim Thayil ซึ่งเป็นซาวนด์ที่โดดเด่นของ Soundgarden กลองอันทรงพลังของ Matt Cameron และเบสที่หนักแน่นของ Ben Shepherd สร้างพื้นหลังที่สมบูรณ์แบบให้กับเสียงร้องที่โหยหวนของ Cornell
เนื้อร้องของ “Black Hole Sun” เต็มไปด้วยภาพและสัญลักษณ์ที่คลุมเครือ เช่น “black hole sun”, “violet rays”, และ “golden clouds”.
สัญลักษณ์ | ความหมายที่เป็นไปได้ |
---|---|
Black Hole Sun | ความมืด, การสิ้นหวัง, อิทธิพลของความรุนแรง |
Violet Rays | ความเศร้าโศก, โทษ, ความลับ |
Golden Clouds | ความหวัง, แสงสว่าง, ช่วงเวลาแห่งความสุข |
การตีความเพลงนี้ขึ้นอยู่กับผู้ฟังแต่ละคน และนั่นเป็นเสน่ห์ของ “Black Hole Sun”
Soundgarden ก่อตั้งโดย Chris Cornell (ร้องนำ/กีตาร์), Kim Thayil (กีตาร์นำ), Hiro Yamamoto (เบส) และ Matt Cameron (กลอง) ในปี 1984 ที่ Seattle, Washington. เสียงดนตรีของพวกเขาได้รับอิทธิพลจากวง heavy metal, punk rock และ psychedelic rock
หลังจาก Hiro Yamamoto ออกจากวง Ben Shepherd เข้ามาแทนที่ตำแหน่งเบส
Soundgarden เป็นหนึ่งในวง grunge ชั้นนำในช่วงต้นยุค 90 ร่วมกับ Nirvana, Pearl Jam และ Alice in Chains พวกเขาได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์และแฟนเพลงว่าเป็นวงดนตรีที่มีความสามารถและมีอิทธิพลอย่างมากในวงการดนตรี
อัลบั้ม Superunknown ซึ่งรวมถึง “Black Hole Sun” ได้รับรางวัลแกรมมี่ และขายได้มากกว่า 9 ล้านชุดทั่วโลก
Soundgarden ตัดสินใจยุติการทำเพลงในปี 1997 แต่ก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในปี 2010 และออกทัวร์คอนเสิร์ตจนถึงปี 2017 เมื่อ Chris Cornell เสียชีวิตอย่างน่าเศร้า
“Black Hole Sun” เป็นเพลงที่ไม่ลืมเลือนซึ่งยังคงเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลต่อวงการดนตรี มันเป็นตัวอย่างของความสามารถในการแต่งเพลงและการแสดงของ Soundgarden และเป็นเพลงที่ควรค่าแก่การฟังซ้ำๆ
เพลงนี้ได้ปรากฏในภาพยนตร์, โฆษณา และเกมต่างๆ ตอกย้ำถึงความนิยมและความเป็นอมตะของ “Black Hole Sun”